10.11.53

Pretty - Pity : คนสวย..น่าสงสาร


อ่านเจอข่าว ดาราสวยๆ ใน ฮอลลีวู๊ด เลิกรากันหรือไม่สมหวังในความรัก ทำให้นึกถึงคำโบราณของไทยที่บอกว่า คนสวยนั้นน่าสงสารเพราะมักอาภัพเรื่องคู่และความรัก  ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ แล้ว ผู้ชายดีๆ (อย่างผม..อิๆ) ก็ยังมีอีกมากนะ ในโลกนี้  แต่ทำไมคนสวยๆ ชอบมองข้ามไปก็ไม่รู้   พูดถึงเรื่องคนสวยกับความอาภัพน่าสงสาร ทำให้ผมคิดได้ถึงคำศัพท์คู่หนึ่ง ที่เกี่ยวข้อง กับเรื่องนี้ และเป็นคำที่มักสะกดผิดอยู่เสมอ ด้วยเหตุที่ว่าการออกเสียงใกล้เคียงกันมาก เรามาดูกันที่คำแรกเลยดีกว่า

Pretty (อ่านว่า พริท ตี่)  แปลว่า  สวยงาม


คำนี้เป็นคำคุณศัพท์ (Adjective) แปลว่า สวย ก็ได้ แปลว่า น่ารักน่าเอ็นดู  ก็ได้  หน้าที่ของคำคุณศัพท์ (Adjective) คือมีไว้เพื่อขยายคำนาม นั่นหมายความว่า Pretty ถ้าจะให้ถูกต้องแล้ว ต้องมีคำนามมาต่อท้าย เช่น Pretty Girl  เป็นต้น หรือ ไม่เช่นนั้น ก็ต้องวางไว้หลัง Verb to be เช่น She is  pretty.  แต่หนุ่มๆ ไทย ชอบเรียกทับศัพท์ ว่าไปงานมอเตอร์โชว์เพื่อไปดู Pretty ซึ่งไม่ถูกหลักไวยากรณ์อังกฤษ ต้องบอกว่าไปดู Pretty Girl  หรือไม่ก็ต้องใช้คำว่า Pretties ซึ่งเป็นคำนามแปลว่า คนสวย แต่ว่าต้องใช้ในรูปพหูพจน์เท่านั้นนะครับ แม้ว่าเรากำลังกล่าวถึงคนสวยแค่คนเดียวก็ตาม คำว่า Pretty นอกจากจะใช้เป็นคำคุณศัพท์ (Adjective) แล้ว ยังสามารถใช้เป็น คำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) ได้อีกด้วย แต่ความหมายจะกลายเป็น  “พอควร หรือ ใช้ได้ ไม่เลวทีเดียว” เช่น

He is a pretty good student. 
เขาเป็นนักเรียนที่ดีใช้ได้ทีเดียว.  (อย่าไปแปลว่า "เขาเป็น นักเรียนชายที่สวยดีทีเดียว" ล่ะ)

เรื่องเกี่ยวกับ Pretty ยังมีแง่มุมให้อธิบายอีกมาก ไม่ต่างจากคนสวยที่มีแง่มุมให้ค้นหาอีกเยอะแยะ แต่จุดประสงค์ของผมวันนี้ต้องการเปรียบเทียบคำว่า Pretty กับคำศัพท์อีกคำหนึ่งนั่นคือคำว่า

Pity (อ่านว่า  พิท ถี่)  แปลว่า ความสงสาร

คำนี้เป็นคำนาม แปลว่า ความสงสาร ความเมตตา เห็นอกเห็นใจ แต่ใช้เป็นคำกริยาก็ได้ แปลว่า สงสาร สมเพช เวทนา ที่หยิบยกคำนี้มาเพราะการออกเสียงของมัน ใกล้เคียงกันกับคำว่า Pretty ที่แปลว่า สวยงาม  ลองมาเทียบเสียงกันดูนะครับ Pity (พิท ถี่) Pretty (พริท ตี่)   จะเห็นว่าถ้าเจอฝรั่งพูดเร็วๆ โอกาสที่เราจะแปลความหมายผิดมีสูงมาก ดังนั้นก็ต้องฟังให้ดีๆ ว่าเขากำลังชมเราว่า "สวย"  (Pretty) หรือ เขากำลัง (Pity) "สมเพชเวทนา" เรากันแน่  :D

อาจารย์บอม
10-11-2010

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น