World (อ่านว่า เวิร์ล ด) แปลว่า “โลก”
คำนี้เป็นคำนามแปลว่า
“โลก” ความน่าสนใจของคำนี้อยู่ที่การออกเสียง คำว่า World นี้ เวลาออกเสียงต้องม้วนลิ้นหน่อยๆ
เมื่อออกเสียง ล. ใน เวิร์ลด
คำนี้ถ้าไม่ม้วนลิ้น จะกลายเป็น Word (อ่านว่า
เวิร์ด) ที่แปลว่า “คำ” ต้องระวังให้ดี
เพราะสะกด ก็คล้ายๆ ออกเสียงก็ใกล้ๆ กัน
ดังนั้นต้องจำให้แม่นๆ ว่า World ต้องม้วนลิ้นหน่อยหนึ่งด้วย
นอกจาก World ที่แปลว่า “โลก” แล้ว ยังมีคำศัพท์อีกคำที่แปลแบบเดียวกัน
นั่นคือ
Globe (อ่านว่า โกลบ)
แปลว่า “โลก”
คำนี้เป็นคำนามแปลว่า
“โลก” นอกจากนี้ Globe ยังแปลว่า “รูปทรงกลม ลูกโลก หรือ
สิ่งที่เป็นลูกทรงกลม“ ได้อีกด้วย หากเป็นคำคุณศํพท์ (Adjective) เราจะใช้คำว่า Global ซึ่งแปลว่า “เกี่ยวกับโลก” ตัวอย่างเช่น
The environmental problems are the global issue.
ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องระดับโลกเลยทีเดียว
นอกจาก World และ Globe
ยังมีคำว่า Earth (อ่านว่า เอิร์ธ) ที่แปลว่า “โลก หรือ พื้นดิน” ได้อีกด้วย ยังไม่หมดนะครับ เรายังมีคำว่า “Planet” (อ่านว่า แพลน นิท) ที่แปลว่า “โลก” แต่คำว่า Planet จะเป็นคำที่สื่อเป็นนัยๆ ว่าเป็นการมองโลกในฐานะที่เป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง
ซึ่งจะมีความหมายในเชิงเชิงดาราศาสตร์
ปัญหาที่มักจะถามกันคือ
แต่ละคำศัพท์ มีการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างไร
จะว่าไปแล้วทุกคำก็ใช้แทนกันได้เกือบหมดในความหมายว่า “โลก”
แต่ Earth Planet และ Globe จะออกแนว “โลก” ที่เป็นของมนุษยชาติทุกคน
ไม่มีการแบ่งแยกเป็นพรมแดนประเทศโน้นประเทศนี้
แต่คำว่า “World”
จะใช้ในความหมายที่เป็นโลกแบบที่มีเส้นแบ่งเขตแดนประเทศ หรือโลกที่มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันรวมกันอยู่
นอกจากนี้ World ยังหมายถึง “มวลมนุษย์ หรือ มนุษยชาติ” ได้อีกด้วยในขณะที่ Earth Planet และ Globe จะมองโลกเป็นหนึ่งเดียวกันมากกว่า นี่ขนาดคุยกันแค่เรื่อง
“โลกๆ” ยังมีคำศัพท์ให้ปวดหัวมากมายขนาดนี้ ถ้าหากไปคุยกันเรื่อง “โรคๆ” คงมิถึงขั้นต้องล้มป่วยหามเข้าโรงพยาบาลกันเลยเหรอเนี่ย ฮ่าๆ
อาจารย์บอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น