เมื่อเช้านี้ผมไปนั่งเล่นที่สวนสาธารณะมาครับ ขณะที่ผมกำลังทอดสายตาออกไปที่ถนน ผมเห็นผู้คนมากมายเร่งรีบไปทำงาน เหมือนกำลังลงสนามแข่งขันกับเวลาอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยมีการจราจรที่ติดขัดบนท้องถนนเป็นสนามประลองกำลัง ภาพที่ผมเห็นนั้นมันช่างขัดแย้งกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสวนสาธารณะเหลือเกิน ในที่แห่งนั้นห่างกันเพียงแค่รั้วเหล็กโปร่งๆ กั้น คนอีกกลุ่มกำลังนั่งทอดอารมณ์อย่างสบายๆ ไม่เร่งรีบ บางคนก็กำลังออกกำลังกาย วิ่งเหยาะๆ บ้าง เดินเล่นช้าๆ อย่างมีความสุขบ้าง ผมเห็นแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า ความสุขหรือความทุกข์นั้น แท้จริงแล้ว ล้วนเป็นแต่เราที่เลือกเอง แต่ที่น่าเศร้า คือเราหลายคนไม่ได้มีทางเลือกมากนัก เหตุเพราะภาระที่แต่ละคนต้องแบกเอาไว้ มันทำให้เราไม่กล้าพอที่ตัดสินใจจะเลือกงานที่ทำให้เราสามารถใช้เวลาได้อย่างอิสระ ที่เล่ามายืดยาวเพราะไปสะดุดใจกับคำว่า สวนสาธารณะ เหมือนจะเคยจำได้ว่านำศัพท์คำนี้มาเล่าแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้ ขอเล่าในอีกมุมหนึ่งโดยเปรียบเทียบกับสวนอื่นๆ นะครับ เริ่มกันเลยดีกว่า
Park (อ่านว่า พ้าร์ค) แปลว่า สวนสาธารณะ
คำนี้เป็นคำนาม แปลว่า สวนสาธารณะ ซึ่งจะปลูกต้นไม้หลากหลายชนิด เพื่อให้ประชาชนเข้าไปพักผ่อนออกกำลังกายกัน เหมือนที่ผมไปนั่งเล่นเมื่อเช้านี้ ในบางครั้งคำนี้ก็สามารถแปลว่า "วนอุทยาน" หรือเขตป่าขนาดใหญ่ ก็ได้เช่นกัน แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ คำนี้ สามารถเป็นคำกริยาได้ด้วย โดยถ้าเป็นคำกริยา จะมีความหมายว่า จอดรถ และถ้าต้องการจะกล่าวถึงที่จอดรถ เราจะใช้คำว่า Parking ดังนั้น ต้องระวังความหมายในประโยคให้ดี ว่าหมายถึง จอดรถ หรือว่า สวนสาธารณะ คำต่อมาที่อยากหยิบมาเล่าให้ฟัง คือคำว่า
Garden (อ่านว่า ก๊าเด่น) แปลว่า สวน
คำนี้เป็นคำนาม แต่เป็นสวน ที่ปลูกผัก หรือ ปลูกดอกไม้ มักอยู่ใกล้ๆ หรือในบริเวณบ้าน อีกเช่นกัน คำๆ นี้สามารถเป็นคำกริยา ได้ด้วย สะกดเหมือนกันเป๊ะ กับคำนาม พอกลายเป็นคำกริยา มันจะแปลว่า ปลูกดอกไม้ หรือ ทำสวน ก็ได้ จะเห็นว่า สวนแบบ Garden จะแตกต่างจากสวนแบบ Park ทั้งในแง่การใช้งานและอาณาบริเวณที่ตั้ง ว่าจะจบแค่การเปรียบเทียบคำสองคำนี้ แต่สมองกลับแว่บ อีกคำขึ้นมาได้ นั่นคือคำว่า
Orchard (อ่านว่า ออ เชิ่ด) แปลว่า สวนผลไม้
คำนี้เป็นคำนาม ความแตกต่างจากคำอื่นๆ ข้างต้น คือ ใช้เฉพาะเจาะจง เพื่อแสดงให้เห็นว่า เป็น สวนผลไม้ โดยเฉพาะ จะไม่มีผัก หรือ ดอกไม้ มาเจือปนอยู่ในสวนแห่งนี้เลย คำว่า Orchard ที่คุ้นหูคนไทยมากที่สุดคือ Orchard Road หรือถนนออร์เชิ่ด ที่ประเทศสิงค์โปร์ ด้วยเหตุที่ว่าเป็นถนนชอปปิ้งสายสำคัญ เหตุที่ถนนสายนี้ได้ชื่อว่า Orchard เพราะย้อนหลังไปเมื่อช่วงประมาณปี ค.ศ. 1830 หรือ ประมาณเกือบ 180 ปีก่อน อาณาบริเวณนี้ล้วนแต่เป็นสวนผลไม้ทั้งสิ้น นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อถนนในปัจจุบันนั่นเอง
สรุปว่าวันนี้เราก็ได้คำศัพท์เกี่ยวกับ สวนไปหลายคำทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ สวนดอกไม้ สวนผลไม้ ผมหวังว่าสวนเหล่านี้คงพอเติมความสดใสให้ท่านได้บ้างในวันจันทร์ซึ่งเป็นวันเริ่มงานวันแรก ผมอยากเชิญชวนท่าน หาโอกาส แวะไปเติมพลังชีวิตให้ตัวเอง โดยการเดินเล่นนั่งเล่น หรือออกกำลังกายเบาๆ ในสวนสาธารณะเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติและสายลมแสงแดดยามเช้า ท่านจะพบว่าความสุขนี้ มีได้ไม่ยากและอยู่ไม่ไกลอย่างที่คิดเลย
อาจารย์บอม
06-09-2010
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น