วลีหวานอมตะ นิรันด์กาล ที่ใช้กันเป็นประจำเมื่อหนุ่มสาวตกอยู่ในห้วงแห่งรัก คือ I love you. หรือ ผมรักคุณ นั่นเอง คำที่น่าสนใจในที่นี้คือคำว่า Love อ่านว่า ลัฝ ไม่ใช่ เลิฟ นะ ครับ คำนี้เป็นได้ทั้งคำกริยา ( คือแปลว่ารัก) และคำนาม (คือแปลว่าความรัก) โดยไม่ต้องเปลี่ยนรูปแบบการสะกด นั่นคือสะกดเหมือนกันเป๊ะ
จึงขอให้สังเกตให้ดีว่าเวลาเจอประโยคที่มีคำว่า love อยู่ว่า ตอนนั้น love เป็นคำกริยาหรือคำนามเพราะจะมีผลเวลาแปลประโยคออกมานะครับ ส่วนความหมายของ love ใช้เกี่ยวกับความรักที่สวยงาม เป็น ความรักเชิงสร้างสรรค์ เช่น ความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ ความรักระหว่างพ่อแม่กับลูก รักระหว่างหนุ่มสาว รักพี่รักน้อง ส่วนใหญ่ก็รวมๆ กันใช้คำว่า love เหมือนกันหมด
แต่จริงๆ แล้วมีคนบอกว่า ความรักของคนหนุ่มสาวในปัจจุบันนี้ เหมือนไฟไหม้ฟาง เป็นความรักที่แฝงเร้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น อยากทดลอง ทำให้ผมนึกถึงคำศัพท์อีกคำที่มีความหมายด้านมืดของคำว่า love นั่นคือคำว่า lust (อ่านว่า ลัส ทฺ) แปลว่าความใคร่ หรือตัณหา คำๆ นี้เป็นได้ทั้งคำนาม และคำกริยา โดยไม่ต้องเปลี่ยนรูปแบบการสะกดเช่นกัน แต่ความหมายที่ใช้มักจะออกมาในแนว ความรักแบบมีกามารมณ์เจือปน ไม่สดใสบริสุทธิ์งดงามเหมือนคำว่า love ลองอ่านออกเสียงสิครับ love (ลัฝ) และ lust (ลัสทฺ) ออกเสียงคล้ายๆ กันใช่ไหมครับ แต่ขอให้ทำความเข้าใจกับความหมายที่แตกต่างกันอย่างหน้ามือเป็นหลังมือของคำคู่นี้นะครับ
หวังว่าเพื่อนๆที่ติดตามอ่านบลอคนี้ คงจะได้ความรู้และและความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เอ๊ย ไม่ใช่ เรื่องการใช้คำที่ถูกต้องระหว่าง love กับ lust นะครับ อย่าลืม Love สร้างสรรค์โลกให้สวยงาม Love ชนะความกลัวและชนะทุกสิ่งได้ แต่ Lust ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างลงได้ในพริบตา ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรใหญ่ๆ ในสมัยโบราณ หรือแม้แต่ในสังคมปัจจุบันเราก็เห็นอานุภาพการทำลายล้างของ Lust มาแล้วมากมาย ขอให้ทุกๆวันของท่านเต็มไปด้วย love , not lust นะครับ
อาจารย์บอม
7-04-09
จึงขอให้สังเกตให้ดีว่าเวลาเจอประโยคที่มีคำว่า love อยู่ว่า ตอนนั้น love เป็นคำกริยาหรือคำนามเพราะจะมีผลเวลาแปลประโยคออกมานะครับ ส่วนความหมายของ love ใช้เกี่ยวกับความรักที่สวยงาม เป็น ความรักเชิงสร้างสรรค์ เช่น ความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ ความรักระหว่างพ่อแม่กับลูก รักระหว่างหนุ่มสาว รักพี่รักน้อง ส่วนใหญ่ก็รวมๆ กันใช้คำว่า love เหมือนกันหมด
แต่จริงๆ แล้วมีคนบอกว่า ความรักของคนหนุ่มสาวในปัจจุบันนี้ เหมือนไฟไหม้ฟาง เป็นความรักที่แฝงเร้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น อยากทดลอง ทำให้ผมนึกถึงคำศัพท์อีกคำที่มีความหมายด้านมืดของคำว่า love นั่นคือคำว่า lust (อ่านว่า ลัส ทฺ) แปลว่าความใคร่ หรือตัณหา คำๆ นี้เป็นได้ทั้งคำนาม และคำกริยา โดยไม่ต้องเปลี่ยนรูปแบบการสะกดเช่นกัน แต่ความหมายที่ใช้มักจะออกมาในแนว ความรักแบบมีกามารมณ์เจือปน ไม่สดใสบริสุทธิ์งดงามเหมือนคำว่า love ลองอ่านออกเสียงสิครับ love (ลัฝ) และ lust (ลัสทฺ) ออกเสียงคล้ายๆ กันใช่ไหมครับ แต่ขอให้ทำความเข้าใจกับความหมายที่แตกต่างกันอย่างหน้ามือเป็นหลังมือของคำคู่นี้นะครับ
หวังว่าเพื่อนๆที่ติดตามอ่านบลอคนี้ คงจะได้ความรู้และและความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เอ๊ย ไม่ใช่ เรื่องการใช้คำที่ถูกต้องระหว่าง love กับ lust นะครับ อย่าลืม Love สร้างสรรค์โลกให้สวยงาม Love ชนะความกลัวและชนะทุกสิ่งได้ แต่ Lust ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างลงได้ในพริบตา ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรใหญ่ๆ ในสมัยโบราณ หรือแม้แต่ในสังคมปัจจุบันเราก็เห็นอานุภาพการทำลายล้างของ Lust มาแล้วมากมาย ขอให้ทุกๆวันของท่านเต็มไปด้วย love , not lust นะครับ
อาจารย์บอม
7-04-09
I think I'm in love with you ... :) ...
ตอบลบแล้ว ... ถ้าบอกอีกแบบจะได้ป่ะครับ
I think I'm in lust with you :D~~~~
ชอบครับ อ.บอม ... Blog นี้เขียนด้วยใจ จริงๆ ...
ใช้ว่า I lust arter you ครับ
ลบเยี่ยมมากครับ
ตอบลบ