24.4.52

My Super Hero, My Friend....


ผมเป็นคนมีเพื่อนฝูงมาก มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วเนื่องจากผมย้ายโรงเรียนบ่อย แม้กระทั่งไปอยู่มหาวิทยาลัยผมก็เรียนหลายมหาวิทยาลัย ทำงานก็ทำหลายที่ เพื่อนจึงหลากหลายมากมายไปหมด เกริ่นแบบนี้เพราะวันนี้อยากคุยถึงคำศัพท์ภาษาอังกฤษคำว่า เพื่อน
Friend (อ่านว่า เฟรน ดฺ) แปลว่า เพื่อน

คำนี้คงคุ้นหูกันดี เป็นคำกลางๆ ที่ใช้เรียกเพื่อน ครอบคลุมได้ถึงเพื่อน แทบทุกประเภทในความหมายกว้างๆ ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว เพื่อนแท้ เพื่อนตุ๊ด เพื่อนเกย์ เพื่อนเฮ เพื่อนฮา เพื่อนบ้า เพื่อนดี เรียกรวมๆ ใช้ได้หมด คือ Friend แถมให้อีกคำหนึ่ง ถ้าเติมคำว่า –ship ลงไป กลายเป็น Friendship (อ่านว่า เฟรนด์ ชิพ) เป็นคำนามแปลว่า มิตรภาพ แล้วถ้าอยากทำความรู้จัก หรืออยากเป็นเพื่อนด้วย ก็ใช้คำว่า make friend นะครับ แปลว่า ทำความรู้จักหรือทำความคุ้นเคย โดย ก็เพิ่มคำว่า make เข้าไป แต่การเพิ่ม make เข้าไปนี่ ไม่ใช่ว่าใช้ได้ทุกสถานการณ์นะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ คำว่า love ต้องระวังเป็นพิเศษ ถ้าเติมเผลอเติม make เข้าไปข้างหน้า กลายเป็น make love ไม่ได้แปลว่า ทำความรักดูสักครั้ง แต่มันจะกลายเป็นว่าทำอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น ....... (ขออนุญาต เซ็นเซอร์นะครับ ท่านที่ไม่ทราบขอให้เขียนมาถามหลังไมค์ หรือไปเปิดดิคชันนารี่ดูเอาเองครับ) จริงๆ นอกจากคำว่า Friend แล้ว ยังมีคำที่แปลว่าเพื่อนในภาษาอังกฤษอีกหลายคำ แต่ใช้ต่างกรรมต่างวาระกัน ผมขอยกตัวอย่างอีกสักคำหนึ่งนะครับ

Mate (อ่านว่า เมท ) แปลว่า เพื่อน

คำนี้เป็นคำนามครับ เป็นเพื่อนอีกลักษณะหนึ่ง คือเพื่อนที่อยู่ร่วมกัน หรือมีอะไรทำร่วมกันสักอย่างหนึ่ง จะใช้เดี่ยวๆ ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นจะมีคำนำหน้าขยายความให้เห็นว่าเป็นเพื่อนกันในด้านไหน เช่น Roommate เพื่อนที่อยู่ร่วมห้องเดียวกัน (เช่นพักร่วมกันสองคนในหอพักนักศึกษา) หรือ Classmate เพื่อนร่วมห้อง เรียนหนังสือห้องเดียวกัน แต่คนไทยคงคุ้นกับ อีก Mate หนึ่ง นั่นคือ Coffeemate อันนี้เป็นยี่ห้อ ครีมเทียมที่ไว้ใส่ในกาแฟ แต่เขาก็เข้าใจเลือกตั้งชื่อนะครับ ประมาณว่า ครีมเทียมนี้ เป็นเพื่อนร่วมห้องเดียวกันกับกาแฟ เลยฟังดูแล้วคือสื่อความหมายว่า กาแฟต้องอยู่ร่วมกันกับฉัน เพราะ ถ้าใช้ชื่อเป็น CoffeeFriend ก็คงดูไม่ลึกซึ้งหรือมีส่วนร่วมกันเท่ากับ CoffeeMate อันนี้คงพอมองเห็นภาพออกนะครับ ก่อนจะจบเรื่อง Mate ที่แปลว่าเพื่อน มันมีอีกคำหนึ่งที่ออกเสียงคล้ายๆ กัน เขียนคล้ายๆ กัน คือคำว่า Maid (อ่านว่า เหมด) แปลว่า หญิงรับใช้ หรือพวกแม่บ้าน ดังนั้นให้ระวังในการสะกดและการออกเสียง มิฉนั้นแล้วจากเพื่อนอาจจะกลายเป็นคนรับใช้ไปในบัดดล นอกจากนี้แล้ว ยังมีอีกคำคือ

Buddy (อ่านว่า บัด ดิ) แปลว่า เพื่อนคู่หู

Buddy แปลว่าเพื่อนคู่หู หรือสหาย ที่ไปไหนไปด้วยกัน ที่ได้ยินเขาพูดกันบ่อยๆ คือเป็น Buddy กัน มีสำนวนอีกอันที่น่าสนใจ คือ buddy up (เป็น phrasal verb) แปลว่า ทำเป็นเนียนตีซี้ หรือประจบประแจงทำเป็นสนิทสนมเพื่อปูทางสู่อะไรสักอย่าง ผมขอยกตัวอย่างประโยคให้ดูนะครับ “We buddy up to the coach in hopes of joining this football team.” พวกเราทำเป็นตีซี้กับโค๊ชด้วยหวังว่าจะได้ร่วมเล่นในทีมฟุตบอลนี้ จำไว้นะครับ ถ้าจะเนียนตีซี้ใครใช้ buddy up ครับ คุยกันไปกันมาชักสนุก ขอแถมอีกคำนะครับ คือคำว่า
Pal (อ่านว่า แพ็ล) แปลว่า เพื่อน (สนิท)

คำนี้จะให้ความหมายถึงเพื่อนที่สนิทสนม ใกล้ชิดกันมากเป็นพิเศษ แต่ถ้าไปประกบกับคำบางคำ ก็ให้ความหมายแตกยอดออกไปได้อีก สมัยก่อนตอนที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ตหรืออีเมล์ ผมมี penpal อยู่หลายประเทศเลย บางคนอาจจะงงว่า ผมไปเป็นเพื่อนกับปากกา หรือว่าอย่างไร Penpal นั้นคนรุ่นเก่าๆ (อย่างผมและท่านผู้อ่านบางท่าน) จะรู้จักเป็นอย่างดี สมัยก่อนจะมีรายชื่อของพวกฝรั่งหลากหลายเชื้อชาติที่อยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก พร้อมที่อยู่ทางไปรษณีย์อย่างละเอียด ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษที่ชื่อว่า Students’ Weekly เราก็จะเขียนจดหมาย(ภาษาอังกฤษ) ไปคุยด้วยกับคนเหล่านั้น ไม่ได้เห็นหน้าค่าตากันหรอก เขียนไปทีเขาจะตอบไม่ตอบก็ไม่รู้ แต่ถ้าตอบมาก็ถือว่าได้ฝึกภาษาไปด้วย ค่าส่งจดหมายไปต่างประเทศสมัยก่อนก็แพงแสนแพง อันนั้นเราเรียกว่า เพื่อนทางจดหมาย หรือ Penpal แต่คนสมัยอินเทอร์เน็ตนี้ ก็จะรู้จักแต่ Paypal ซึ่งก็ไม่เกี่ยวอะไรกับ Penpal เลย เจ้า Paypal ก็คือบริการรับเงินจ่ายเงินเป็นตัวกลางสำหรับการชำระเงินค่าสินค้าและบริการทางเน็ต อธิบายยาวก็จะยุ่งไปกันใหญ่ อยากรู้ก็ไปหาอ่านเอาว่าเขาทำอะไรบ้างใน www.paypal.com นะครับ สรุปคือผมแค่อยากจะอธิบายว่า Pal แปลว่าเพื่อนที่สนิท ครับ  นึกขึ้นมาได้ว่ามี Proverb (อ่านว่า โพร เวิ๊บ แปลว่า สุภาษิต) เกี่ยวกับเรื่องเพื่อนในยามยากอยากแบ่งปันให้ท่านได้ฟังด้วย

A friend in need is a friend indeed.

แปลความได้ว่า เพื่อนที่อยู่กับเราในยามยาก (หรือยามที่เราต้องการใครสักคนช่วยเราจริงๆ ) นั่นคือเพื่อนที่แท้จริง หรือจะขยายความเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า Someone who helps you when you are in need is a true friend. คำว่า a friend indeed ที่อยู่ในสุภาษิตข้างต้น indeed ( อ่านว่า อินดี๊ด) แปลว่า แท้จริง
ผมอยากบอกทุกท่านว่า เพื่อนแท้มีความสำคัญมากและ การจะได้พบเห็นเพื่อนแท้ของท่าน ท่านจะต้องพิจารณาดูตอนที่ท่านตกต่ำเท่านั้น ผมเป็นคนเพื่อนเยอะ ถึงเยอะมากครับ แต่คนที่เป็นเพื่อนแท้ของผมมีไม่กี่คนเลย พวกเขาเป็นเพื่อนที่ไม่ค่อยจะเสนอหน้าหรือแสดงตัวตอนผมรุ่งเรือง ผมเองก็ไม่เคยสนใจพวกเขาด้วยเหมือนกันในยามนั้น แต่ในยามที่ผมตกต่ำท้อถอย ต้องการความช่วยเหลือ พวกเขาจะปรากฏตัวในทันทีเหมือนพวก Bat Man หรือ Spider Man -- ใช่ครับ..... พวกเขาเฝ้าดูผมด้วยความเป็นห่วงอยู่ห่างๆ พวกเขาไม่เคยทอดทิ้งผม พวกเขาให้กำลังใจผม และให้เกียรติผมอย่างเสมอต้นเสมอปลาย บางคนช่วยเหลือเรื่องหางานหาการให้ทำ บางคนช่วยแม้กระทั่งเรื่องที่อยู่อาศัยให้ที่พักพิงกับผมและครอบครัวได้ซุกหัวนอน ไม่ต้องเป็นนกขมิ้นเหลืองอ่อนเร่ร่อนไป ผมอยากจะบอกพวกเขาตรงนี้ว่า คุณคือเพื่อนแท้ที่ผมจะไม่มีวันลืม และขอบคุณเพื่อนแท้ทุกคนที่ปรากฏตัวขึ้นในยามรัตติกาลที่มืดมิดที่สุดแห่งชีวิตผม เพื่อนแท้ผู้ไม่เคยทอดทิ้งผมให้เดินอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนถนนชีวิตที่ขรุขระและเต็มไปด้วยฝุ่นควัน ผมขอใช้พื้นที่ตรงนี้บอกความในใจให้คุณรู้ว่า คุณคือ Super Hero ของผม ท่านผู้อ่านล่ะครับ มี Super Hero อย่าง Spider Man หรือ Bat Man ของท่านบ้างหรือยัง?

อาจารย์บอม
24-04-09

2 ความคิดเห็น:

  1. I like this essay nakha. It's true that it's quite hard to find real friends when you get in troubles.

    Thx for teaching me lots of new vocabs every day

    ตอบลบ
  2. คือหนูขอถามแกรมมาร์อ. บอมบ์หน่อยนะคะ

    ยกตัวอย่างนะคะ
    Every residue is upside down and this results in the cellulose chain being straight.


    คือหนูไม่รู้ว่ารูปย่อของประโยคที่ทำให้มันดูสั้นขึ้นนี่มันทำยังไงอ่าค่ะ อย่างตรงนี้นะคะ cellulose chain being straight มันประมาณว่า cellulose chain is straight ตามที่หนูเข้าใจนะคะ

    แต่ทำไมบางทีหนูเห็นมันไม่ต้องใช้คำว่า being ละคะ
    เช่น A particle has position vector relative to a fixed origin.

    ไอ้ตรง position vector relative to มันไม่เห็นต้องมีคำว่า being นำหน้า relative เลยนี่ค่ะ


    อ. บอมบ์ช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อยได้หรือเปล่าค่ะ ว่าควรจะใช้ยังไง ขอบคุณค่า

    gamme.com@gmail.com

    ตอบลบ