ข่าวใหญ่ของวันนี้ คงหนีไม่พ้น การลอบสังหารแกนนำกลุ่มเสื้อเหลือง ที่โดนอาก้า พร้อมอาวุธสงคราม ถล่มแบบไม่ยั้งนับร้อยนัด แต่ก็รอดตายมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผมเลยนึกถึงศัพท์คำหนึ่งขึ้นมาได้ เกี่ยวกับการลอบสังหาร คำที่ผมจะกล่าวถึงในวันนี้คือคำว่า
Assassinate (อ่านว่า แอ็ซ แซซ-ซิเนท) แปลว่า ลอบสังหาร
คำนี้เป็นคำกริยา ถ้าต้องการทำให้เป็นคำนามก็ตัด e ออกแล้วเติม ion เข้าไป กลายเป็น assassination (อ่านว่า แอ๊ซ แซซ –ซิเนชั่น) เป็นคำนามแปลว่า การลอบสังหาร หรือถ้าต้องการจะระบุถึงตัวคนที่เป็นคนลงมือลอบฆ่า เราก็ใช้คำว่า assassin (อ่านว่า แอ๊ซ แซซ ซิน) เป็นคำนาม แปลว่า ผู้ที่ลงมือลอบสังหาร ถ้ากลับกัน คนนั้นตกเป็นเหยื่อถูกลอบสังหารจะต้องทำเป็นรูป Passive Voice เช่น ถ้าคุณสนธิถูกลอบสังหาร ประโยคจะเป็นดังนี้
Mr. Sondhi is assassinated this morning.
คุณสนธิ ถูกลอบสังหารเมื่อเช้านี้
บางท่านอาจจะสงสัยว่า Passive Voice คืออะไร? ผมขออนุญาตอธิบายเพิ่มเติมสั้นๆ ไว้ตรงนี้นะครับ Passive Voice คือรูปกริยาซึ่งประธานเป็นผู้ “ ถูกกระทำ ” กริยานั้นโดยผู้อื่น ซึ่งคนที่ถูกกระทำหรือเป็นกรรมในทีนี้ก็คือคุณสนธิ Passive Voice จึงให้ความสำคัญกับกรรม ( object ) ของประโยคหรือสิ่งที่ถูกกระทำมากกว่าประธาน หรือไม่สนใจว่าใครทำ แต่สนใจว่าใครโดนทำมากกว่า ขอเพิ่มเติมหลักการสร้างประโยค Passive Voice แบบง่ายๆ ดังต่อไปนี้นะครับ
1. เอากรรมของประโยคขึ้นมาเป็นประธาน (ในที่นี้คือเอา Mr.Sondhi ซึ่งเป็นกรรมเพราะถูกยิง มาขึ้นเป็นประธานของประโยค)
2. ใช้ verb to be ให้ถูกต้องตามประธาน (ในที่นี้ ผมใช้คำว่า is ซึ่งเป็น verb to be สำหรับประธาน Mr.Sondhi)
3. กริยาแท้ในประโยคให้เปลี่ยนเป็นช่อง 3 ( past participle ) นั่นคือคำว่า assassinated
2. ใช้ verb to be ให้ถูกต้องตามประธาน (ในที่นี้ ผมใช้คำว่า is ซึ่งเป็น verb to be สำหรับประธาน Mr.Sondhi)
3. กริยาแท้ในประโยคให้เปลี่ยนเป็นช่อง 3 ( past participle ) นั่นคือคำว่า assassinated
4. เอาประธานของประโยค Active ไปเป็นกรรมหลัง by (ในที่นี้ไม่ได้ใส่อะไร เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นคนลงมือลอบสังหาร)
เอาสั้นๆ เท่านี้ก่อนเดี๋ยวจะงง กันไปใหญ่ ไว้มีโอกาสครั้งหน้าผมจะเล่าเรื่อง Passive voice โดยละเอียดอีกที ก่อนจบ ขอแถมอีก 2 คำนะครับ คือคำว่า kill (อ่านว่า คิล) แปลว่า ฆ่า หรือสังหาร อันนี้ความหมายใกล้เคียงกับลอบสังหารแต่จะแรงกว่าลอบสังหาร คือ อาจไม่ได้ซุ่มยิงหรือลอบยิง จะเป็นการฆ่ากันซึ่งๆ หน้า หรือฆ่าให้ตายกันไปเลย ไม่มีการอีแอบ หรือลับๆ ล่อๆ แอบยิง และอาจจะรู้ตัวคนฆ่าด้วย และอีกคำคือคำว่า suicide (อ่านว่า ซุย ไซด์) แปลว่า ฆ่าตัวตาย เป็นได้ทั้งคำกริยาและคำนาม คงไม่ต้องอธิบายความหมายนะครับ ตายแบบนี้คือไม่มีใครสั่งฆ่าหรือลอบฆ่า แต่เขาฆ่าตัวเขาเองเลย
วันนี้ขอจบเรื่องฆ่าแกงกันไว้แค่นี้ก่อน เดี๋ยวจะสยดสยองไปกันใหญ่ ช่วงนี้บ้านเมืองเรามีแต่เรื่องร้อนๆ ไม่เว้นแต่ละวัน ขอให้ระวังในการบริโภคข่าวสารที่มากเกินไปเนื่องจากจะทำให้เราเกิดความเครียดได้ ปัจจุบันนี้ข่าวสารมาถึงตัวเราเร็วมากและมาจากหลายๆ ทาง ขอให้เลือกบริโภคข่าวสารที่อ่านแล้วมีความสุข และที่สำคัญอย่าเครียด นะครับ เดี๋ยวจะแก่เร็ว
อาจารย์บอม
17-04-09
อ่าน article นี้แล้วถ้าจะให้ Relax บ้างก็คงต้องนึกถึงภาพยนตร์โปรดผมอีกเรื่องนึงสิบกว่าปีมาแล้ว คือ Assassins (น่าจะประมาณปี 1995) ที่มีดาราดังๆ อย่าง Sylvester Stallone, Antonio Banderas, Julianne Moore แสดงไว้ เนื้อเรื่องก็เข้าบทความนี้พอดี ... ว่ากันไปแล้วคำว่า Assassination นี่ส่วนใหญ่ก็เกิดจากเรื่องผลประโยชน์ ทั้งการเมืองและธุรกิจ สำหรับบ้านเราช่วงเวลานี้ หลายๆ คนตัวนำๆ คงต้องระวังตัวจากการเป็น Victim (เป็น Antonym คำตรงข้ามของ Assassin หรือเหยื่อของการลอบสังหาร) ... ขอให้สงบโดยเร็วที่สุดที่จะเร็วได้เถอะนะครับ
ตอบลบขอบคุณ Toni Maxx มากครับ สำหรับการแนะนำคำว่า Victim ซึ่งแปลว่าเหยื่อ ผมลืมคำนี้ไปเสียสนิท ถือว่าเป็นคำที่ตรงกันข้ามกับ Assassin และเป็นคำที่น่าสนใจ ที่ทำให้บทความนี้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ตอบลบขอบคุณอีกครั้งสำหรับการแบ่งปันและการติดตามบลอคอย่างสม่ำเสมอนะครับ
อาจารย์บอม