5.9.52

Inside Out


หายหน้าหายตาไปหลายวันด้วยภารกิจ ที่รัดตัว พร้อมกับเซลล์สมองที่มันไม่ค่อยยอมจะทำงานเอาซะเลย วันนี้มีโอกาส จึงขอนำเสนอ คำที่แสนจะเบสิค แต่สามารถแตกออกไปเป็นคำต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย เอาเป็นว่าวันนี้ผมขอนำเสนอคำว่า

Side (อ่านว่า ซ้าย เดอะ) แปลว่า ข้าง/ด้านข้าง

คำนี้เป็นได้ทั้งคำนาม และคำ คุณศัพท์ เช่น Side Door ก็ประตูด้านข้าง อันนี้ก็เป็นคุณศัพท์ขยายคำนามคือคำว่า Door ทีนี้นอกเหนือจากนี้แล้ว ยังเป็นคำกริยาก็ได้นะครับ โดยจะมีความหมายว่า อยู่ข้างหรือเข้าข้าง ยกตัวอย่างประโยคสักหน่อยดีกว่า

He sided against this bill in the Parliament.
เขาอยู่ข้างที่ต่อต้านกับร่างกฏหมายฉบับนี้ในรัฐสภา



ประเด็นที่น่าสนใจของคำว่า side คือ การเติมคำเข้าไปข้างหน้ามัน (Prefix) ทำให้เกิดความหมายใหม่ๆ น่าสนใจมากมาย ยกตัวอย่่างเช่น

Inside (อ่านว่า อิ่น ซ้าย ดึ) แปลว่า ข้างใน

คำนี้เป็นได้ทั้งคำบุพบท (Prepostion) เพื่อบอกตำแหน่งเช่น inside the room แปลว่าข้างในห้อง ถ้าเป็นคำนามก็มีหลายความหมาย เช่น สามารถแปลว่าความรู้สึกข้างใน ก็ได้ ยกตัวอย่างประโยค

I felt good on the inside when I helped the poor.
ผมรู้สึกดีอยู่ข้างในเมื่อผมได้ช่วยเหลือคนยากไร้

ขณะเดียวกันคำนี้ ก็สามารถเป็นคำ คุณศัพท์ (Adjective) ขยายคำนามได้ด้วยเหมือนกัน เช่น Inside Information แปลว่า ข้อมูลภายใน พูดถึงคำนี้เลยทำให้นึกได้ว่า ถ้าเราพูดคำว่า Inside เฉยๆ ก็เป็นสำนวนแปลว่า ข้อมูลภายใน หรือข้อมูลแบบลับได้ เหมือนกัน

ผมอยากชวนท่านผู้อ่าน ให้ลองเติม out เข้าไปด้านหน้า side เราจะได้ความหมายทีี่แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิงจากคำว่า inside ลองมาดูกันนะครับ

Outside (อ่านว่า เอ๊า ซาย ดึ) แปลว่า ข้างนอก

เช่นกันสำหรับคำนี้ เป็นได้ทั้งคำนาม แปลว่าส่่วนที่อยู่ด้านนอก เป็นได้ทั้งคำบุพบท เช่น outside the wall แปลว่านอกกำแพง แต่ถ้าเป็นคำคุณศัพท์ (Adjective) ก็จะออกมาแนวตามตัวอย่างนี้เช่น Outside Telephone Line ก็แปลว่าโทรศัพท์สายที่เรียกเข้ามาจากด้านนอก

มาถึงตรงนี้ เรารู้จักทั้ง Inside และ Outside ล่ะ มันยังมีอีกคำนะครับ ที่มีทั้ง in ทั้ง out โดยคำนี้เป็นคำ Adverb ก็ได้ เป็น Idioms ก็ได้ นั่นคือคำว่า Inside Out แปลว่า กลับด้านในมาเป็นด้านนอก หรือ อีกความหมายหนึ่งแปลว่า รู้จักอย่างทะลุปรุโปร่ง ตัวอย่างเช่น


I know Chiangmai inside out.
ผมรู้จักเชียงใหม่อย่างทะลุปรุโปร่งเลยล่ะ

ก่อนจะไปไกลกว่านี้ ขอกลับมาต่อที่คำอื่นๆ ในตระกูล Side กันก่อนนะครับ นั่นคือคำว่า

Beside (อ่านว่า บิ ซ้าย ดึ) แปลว่า ด้านข้าง

คำนี้เป็นคำบุพบท (Preposition) บอกตำแหน่ง เช่น I sit beside him. ฉันนั่งอยู่ข้างๆ เขา จะเห็นว่า เราิเติมคำว่า be ลงไปที่หน้าคำว่า side ก็ได้ความหมายขึ้นมาใหม่อีกคำหนึ่ง

ก่อนจะจบ ขอฝากอีกคำนะครับ นั่นคือคำว่า Onside (อ่านว่า อ๊อน ซ้าย ดึ) คำนี้เป็น adjective ใช้ในวงการกีฬา แปลว่า ภาวะการณ์ที่ฝ่ายนั้นได้เป็นผู้เสริฟลูก หรือ ได้เล่นลูก จะเห็นได้ว่าแค่เรารู้ศัพท์คำเดียว คือ side จะสามารถแตกแขนงได้ศัพท์ใหม่ๆ อีกมากมาย เพียงแค่มีการเติมคำบางคำลงไปข้างหน้า สำหรับผมแล้วอันนี้ถือเป็นเสน่ห์ของภาษาอังกฤษเลยทีเดียว เรียนรู้กี่ที อ่านกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อครับ อยากให้ท่านผู้อ่านลองไปหาคำมาลองเล่นแบบนี้ดูบ้าง แล้วลองเติมหน้า เติมหลัง แล้วลองค้นหาความหมายมันดูจะทำให้เพิ่มพูนคำศัพท์ใหม่ๆ และสนุกกับคำใหม่ๆ ได้มากมายเลยครับ


อาจารย์บอม
05-09-09

1 ความคิดเห็น: