สมัยโบราณ
เมื่อผู้คนจะติดต่อสื่อสารกันก็จะใช้วิธีเขียนจดหมายถึงกัน แรกๆ ก็ผูกขานกพิราบไป
หลังๆ เริ่มมีกิจการไปรษณีย์ก็ใช้วิธีเขียนใส่ซองติดแสตมป์ส่งหากัน แต่ปัจจุบันนี้ รวดเร็วว่องไวกว่านั้น
เราใช้ส่งพิมพ์ลงบนคอมพิวเตอร์แล้วส่งอีเมล์หากันเลย ส่งปุ๊ปได้ปั๊ปไม่ต้องรอ ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือติดต่อสื่อสารรวดเร็ว
เขียนปุ๊ปกดส่งปั๊ป ไม่ต้องมานั่งใส่ซองติดแสตมป์ รออีกสามสี่วันกว่าจะได้ถึงมือผู้รับ
แต่ข้อเสียคือ หลายครั้งที่เราเขียนจดหมายเสร็จแล้วกดส่งออกไปในทันทีโดยไม่ได้ตรวจสอบเนื้อหาในจดหมาย
ยิ่งถ้าเราเขียนไปด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนัก
เมื่อกดส่งไปแล้วก็ไม่สามารถที่จะดึงจดหมายฉบับนั้นกลับมาแก้ไขได้
หลายคนจึงมีเรื่องมีราวทะเลาะเบาะแว้งเสียเพื่อนกันไปเหตุเพราะความรวดเร็วเกินไปของอีเมล์ที่ถูกส่งออกไปโดยขาดการตรวจสอบทบทวนนั่นเอง
วันนี้ร่ายมาซะยาว เพื่อจะพูดถึงคำว่า
Letter (อ่านว่า เลท เทอะ) แปลว่า “จดหมาย”
คำนี้เป็นคำนามแปลว่า
“จดหมาย” หรือ แปลว่า “ตัวหนังสือ
ตัวอักษร หรือ หนังสืออนุญาต” ก็ได้
นอกจากนั้นถ้าใช้เป็นคำกริยา จะแปลว่า “เขียนจดหมาย หรือ เขียนหนังสือ” สิ่งที่น่าสนใจคือยังมีคำศัพท์ที่สะกดและออกเสียงคล้ายๆ
กันกับคำนี้นั่นคือ
Latter (อ่านว่า แลท เทอะ) แปลว่า ต่อมา
คำนี้เป็นคำคุณศัพท์
(Adjective) แปลว่า “ต่อมา , อันหลัง, ส่วนที่สอง”
คำว่า ต่อมาหรือถัดมานี้ จะใช้ในกรณีมีของสองสิ่งหรือสองส่วน แล้ว Latter จะใช้ในความหมายที่บ่งบอกถึง ส่วนที่สองหรืออันต่อมาจากอันแรก
ยกตัวอย่างประโยคเพื่อให้เห็นภาพกันเลยดีกว่า
Our sales volume will be better in the latter half of the
year.
ยอดขายของเราจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ
คำว่า Letter – Latter นั้น สะกดต่างกันตรงที่ตัว e กับ ตัว a แต่การออกสียงนี่ถือว่าใกล้เคียงกันมาก
ลองมาออกเสียงกันนะครับ Letter (เล็ท เทอะ) – Latter (แลท เทอะ)
คล้ายกันมากใช่ไหมครับ?
ต่างกันแค่เสียงพยางค์หน้าออกเสียงสั้นกับลากเสียงยาว คือ “เล็ท” กับ “แลท” ถ้าเราสามารถแยกความแตกต่างในการออกเสียงและตัวสะกดได้
เราก็สามารถแยกแยะความแตกต่างของคำศัพท์ทั้งสองคำนี้ได้อย่างสบายๆ
อาจารย์บอม
28-06-2013
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น