19.4.52

Spelling นั้นสำคัญไฉน?


เริ่มรู้สึกว่าตัวเองแก่ลง เพราะมักจะทบทวนถึงความหลังเสมอๆ และอดยิ้มอย่างมีความสุขไม่ได้กับชีวิตช่วงที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย นับย้อนหลังไปก็เป็นเวลา 20 กว่าปีมาแล้ว คงไม่ผิดที่มีคนกล่าวไว้ว่า คนแก่มักจะหวนคำนึงถึงแต่อดีต ส่วนคนหนุ่มสาวก็มองไปที่อนาคต

สมัยที่ผมเรียนที่ ABAC นั้น มีวิชาที่ นักศึกษาทุกคนต้องเรียนคือ English ตั้งแต่ เล่ม 1 ยันเล่ม 4 ต้องเรียนทุกเทอม แต่ที่น่าสนใจคือวิชานี้จะเรียนตอน 8.00 น. เสมอ เป็นวิชาที่เรียนตอนเช้า และเป็นวิชาที่ไม่มีการเช็คชื่อว่าใครมาไม่มา หรือใครมาสาย แต่นักศึกษาทุกคนก็มาตรงเวลาเป๊ะ ท่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมนักศึกษาจึงมีความรับผิดชอบหรือ สปิริตอันสูงส่งปานนั้น ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ แต่เป็นเพราะวิชานี้จะมีการ

  Dictation (อ่านว่า ดิค เท ชั่น) แปลว่า การเขียนตามคำบอก

นั่นคือ แปดโมงตรง อาจารย์จะเริ่ม อ่านประโยคภาษาอังกฤษแล้วให้ นักศึกษาทั้งห้องเขียนตาม ที่อาจารย์พูด ประมาณสิบประโยคเป็นเรื่องราวสั้นๆ หลังจากนั้นก็ส่งให้อาจารย์ตรวจเก็บคะแนนครั้งละ 10 คะแนน ทุกครั้งที่มีการเรียนจะมีการเก็บคะแนนโดยการ Dictation

โดยระบบนี้ นักศึกษาทุกคนจึงต้องกระตือรือร้น แหกหูแหกตาตื่นแต่เช้าเพื่อมาเข้าห้องเรียนให้ทันการ Dictation ไม่งั้นสอบตกแน่นอนเพราะคะแนนเก็บวิชานี้มหาศาล นึกย้อนไปแล้วอดทึ่งในกุศโลบายการทำให้เราเป็นคนตรงต่อเวลาแบบไม่ต้องบังคับมาเช็คชื่อกันของวิชานี้ไม่ได้ เราต้องทำอย่างนี้ถึง 4 เทอมหรือสองปีเต็มๆ แต่สิ่งที่อยากเล่าคือ ประสบการณ์จากการเขียนตามคำบอก ผมค้นพบกว่า บางครั้งเราฟังอาจารย์เข้าใจ แต่เราได้คะแนนน้อยเพราะคำที่เราเขียนนั้น เราสะกดผิดหรือตกหล่นไปแค่ตัวอักษรเดียว กลับทำให้คำแปลที่ออกมาก็แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว อ้อ ลืมบอกไปนิดนึงครับ คำว่า สะกด ภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า Spelling (อ่านว่า สเปล ลิ่ง) นะครับ ผมลองนั่งนึกย้อนดูคำที่ผมเคยสะกดตกๆ หล่นๆ แล้วความหมายเปลี่ยนไป มาให้ท่านผู้อ่านได้ดูเล่นๆ สักสองคำ ดังนี้ครับ

Manager (อ่านว่า แม เนอ เจอร์) แปลว่า ผู้จัดการ
Manger (อ่านว่า แมน เจอะ) แปลว่า รางหญ้า


เห็นไหมครับ แค่ตก ตัว a หลังตัว n ไป คำเดียว งานเข้าเลย จากคำว่าผู้จัดการ กลายเป็น รางหญ้าที่อยู่ในคอกสัตว์ไปเลย จากผู้จัดการนั่งห้องแอร์หรูๆ กลายเป็น กระเด็นไปอยู่ในคอกสัตว์ซะงั้น

Staff (อ่านว่า สตาฟ) แปลว่า พนักงาน
Stuff (อ่านว่า สตัฟ) แปลว่า สิ่งของ

สองคำนี้จะต่างกันตรง เปลี่ยนตัว a คำแรก เป็น ตัว u จาก Staff คนตัวเป็นๆ (คือพนักงาน) กลายเป็น Stuff สิ่งของที่ไม่มีชีวิตจิตใจซะงั้น เห็นไหมครับเขียนผิดตัวอักษรเดียวความหมายแตกต่างกันไปยาวเลย แถมท้ายอีกคำหนึ่ง ที่เพิ่งนึกออก คือคำว่า


  Free (อ่านว่า ฟรี)   แปลว่า อิสระ
   Flee (อ่านว่า ฟลี) แปลว่า หลบหนี
         Fee (อ่านว่า ฟี)   แปลว่า ค่าธรรมเนียม

จะเห็นได้ว่า คำสองคำแรกนี้ สะกดต่างกันแค่ ใช้ r กับ lนอกนั้นเหมือนกันหมด การออกเสียงก็ใกล้เคียงกันมากๆ แต่ความหมายต่างกัน คำที่หนึง Free แปลว่าอิสระ อีกคำ Flee แปลว่า ยังไม่อิสระ เพราะกำลังหนีอยู่ ฮ่าๆ ทั้งคู่เป็นคำกริยานะครับ ส่วน Fee คำที่สาม แปลว่าค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่น ค่าทางด่วนก็ว่า Toll Fee ค่าเรียนก็ Tuition Fee 

จริงๆ ผมยังมีคำแนวๆ นี้อีกมาก แต่วันนี้ยังนึกไม่ออก ถ้าท่านผู้อ่านนึกคำอะไรเพิ่มเติมได้ก็ comment มาบอกได้นะครับ

อาจารย์บอม
19-04-09

2 ความคิดเห็น:

  1. I like your blog so much because it's quite easy to follow and very knowledgable.

    Thx for helping me understand English more clearly.

    Gtta be ur fanclub now haha

    ตอบลบ
  2. นึกออกอีกคำครับ ไหน ๆ ก็ free และ flee แล้ว
    ถ้าหากเราเขียนตกตัว r หรือ ตัว l ก็จะกลายเป็น
    fee กลายเป็นอีกความหมายนึงไปเลย :)

    ตอบลบ