23.11.55

End – Finish : จบเสียที..จะได้เริ่มต้นดีๆ ในไม่ช้า


ในความสัมพันธ์ของมนุษย์มักเริ่มต้นด้วยความหอมหวานโดยเฉพาะในเรื่องของความรัก  แต่ยิ่งนานวันไปหลายคู่ความสัมพันธ์กลับถอยหลังลงไปเรื่อยๆ   กระทั่งถึงวันที่จะต้อง “จบ” ความสัมพันธ์ด้วยการบอกลา ทุกสิ่งในโลกใบนี้ เมื่อมีเริ่มต้นแล้วย่อมต้องมีตอนจบด้วยกันทั้งสิ้น   คำศัพท์เกี่ยวกับ “จบ” ในภาษาอังกฤษ มีอยู่หลายคำ แต่คำที่พบเห็นบ่อยและน่าสนใจมากมีอยู่สองคำ เริ่มกันที่คำว่า
End  (อ่านว่า เอนด์  )   แปลว่า จบ


คำนี้เป็นคำนาม แปลว่า “จบ” หรือ  “ส่วนปลาย” ก็ได้   คำนี้ยังสามารถใช้เป็นคำกริยาได้อีกด้วย โดยจะแปลว่า “สิ้นสุด”  แต่ที่ผมต้องหยิบยกมาเล่าให้ฟังเพราะคำนี้มีความหมายใกล้เคียงกันกับคำว่า

Finish (อ่านว่า ฟิน นิช  ) แปลว่า จบ

คำนี้เป็นคำกริยา แปลว่า “จบ” หรือ “สิ้นสุด” ถ้าเป็นคำนามจะแปลว่า “ตอบจบ” หรือ “บทสุดท้าย”   สิ่งที่น่าสนใจคือ End และ Finish ถ้ามองเฉพาะคำแปลภาษาไทยถือว่าความหมายใกล้เคียงกันมาก แต่จริงๆ แล้วมีข้อแตกต่างในด้านการใช้งาน คือ Finish จะใช้เมื่อกล่าวถึง งานหรือกิจกรรมบางอย่างที่ “จบหรือเสร็จ”  ส่วน End จะใช้ในกรณี ของการ “จบ” ความสัมพันธ์ หรือ จบในเรื่องที่จะนำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่ชีวิต เช่น ตอนจบของหนัง ก็จะใช้ The End แต่ถ้าเป็นการวิ่งมาราธอน เมื่อวิ่งเสร็จถึงเส้นชัย ถือว่าจบภารกิจจะใช้ Finish เป็นต้น

นอกจากนี้ End ยังสามารถใช้กับเรื่องการจบหรือสิ้นสุดในกรณีที่เกียวข้องกับสิ่งของ เช่น The end of the road ที่แปลว่า “จุดสิ้นสุดของถนน”  แต่ถ้า Finish จะใช้ในเรื่องที่เกี่ยวกับ “เวลา” เช่น What time will this  be finished?  “งานนี้จะเสร็จสิ้นกี่โมงเนี่ย?”
 
สัจธรรมอย่างหนึ่งของชีวิตคือ ทุกอย่างมี “เริ่ม”  ย่อมมี “จบ” เป็นธรรมดา ถ้าเข้าใจและไม่ไปยึดมั่นถือมั่น ชีวิตเราก็จะไม่เป็นทุกข์  แต่สิ่งหนึ่งที่อยากให้มั่นใจได้เลย คือ เมื่อสิ่งเก่าจบหรือจากไป นั่นเป็นสัญญาณเริ่มต้นว่า จะมีสิ่งใหม่ๆ ที่ “ดีกว่า” กำลังจะเข้ามาในชีวิตเสมอ  อันนี้พูดจริงนะครับ ไม่ได้โม้..

อาจารย์บอม
23-11-55

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น