21.6.68

What Remains - สิ่งที่หลงเหลือ

 



มีคำพูดอยู่คำหนึ่งที่ผมได้ยินจากเพื่อนที่เพิ่งเลิกรากับคนรัก มาแบบแผลสดๆ ....

เขาพูดด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ ว่า...

 

“รักเขามากนะ แต่ท้ายสุดก็ต้องยอมรับว่า… บางทีความรักของเราไม่เท่ากัน”


คืนนั้น ผมเลยหยิบกระดาษขึ้นมาขีดเขียนความรู้สึกนั้นของเขา  จนกลายมาเป็นเพลงนี้ —


"What Remains" เพลงที่พูดถึงคนที่เคยให้ความรักจนหมดใจ แต่สุดท้ายต้องเดินออกมาด้วยหัวใจที่ขาดวิ่น กระจุยกระจาย

วันนี้เราไม่ได้มาเนั่งศร้ากันนะครับ
แต่เรามา “เรียนภาษาอังกฤษ” จากความเศร้าแบบสวย ๆ กันดีกว่า
เพราะในความเจ็บ…มีคำสวย ๆ ซ่อนให้เราได้เรียนรู้อยู่เสมอ

🎧 What Remains

15.6.68

🌙 Where We Still Meet




🌙 Where We Still Meet

เพลงที่ยัง “คง อยู่” แต่คน คงไม่อยู่ ตรงนั้นแล้ว

บางครั้ง...การจากลา ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา....
ไม่มีเสียงสะอื้น ไม่มีน้ำตา ไม่แม้การบอกลา...

 สิ่งที่ยัง “เหลือ” ในทุกจังหวะเวลา คือ ความเงียบงัน
 เหมือนใครบางคนเคยเดินผ่านร้านกาแฟเดิมๆ ที่คุ้นตา

ร้านกาแฟบนถนนสายที่ 7 ..ใช่ เลข 7  อันเป็นเลขที่เธอโปรดปราน
แสงไฟจากร้านนั้น  ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นไม่สร่างซา 

แม้ว่าวันนี้ ชื่อของใครบางคนที่เคยผ่านมา ..อาจถูกลบลืมไปตามกาลเวลา 




 เนื้อเพลง: Where We Still Meet

I walked past that café on 7th street

ฉันเดินผ่านร้านกาแฟบนถนนสายที่เจ็ด

The one we swore we’d always keep

ร้านที่เราเคยสาบานว่าจะเก็บไว้ตลอดไป

Funny how the lights still feel the same

น่าแปลกที่แสงไฟยังคงให้ความรู้สึกเดิม

Even though I forget your name… when I try not to

แม้ว่าฉันจะลืมชื่อเธอ…เมื่อพยายามไม่คิดถึง

And some nights when the silence stays too long

และบางคืนที่ความเงียบอยู่นานเกินไป

I hear your voice in an old love song

ฉันได้ยินเสียงเธอในเพลงรักเก่า

Not sure if you remember me

ไม่แน่ใจว่าเธอยังจำฉันได้ไหม

But I still hold the memory

แต่ฉันยังคงเก็บความทรงจำนั้นไว้

In a place where no one goes

ในที่ที่ไม่มีใครไป

Where the wind just softly blows

ที่ซึ่งลมพัดแผ่วเบา

That’s where we still meet…

ตรงนั้นแหละที่เรายังพบกัน…

In my quiet reverie

ในภวังค์เงียบของฉัน

You’re not mine and I’m not yours

เธอไม่ใช่ของฉัน และฉันก็ไม่ใช่ของเธอ

But we dance between the lines of dreams

แต่เราก็เต้นรำในรอยต่อของความฝัน

Every now and then

เป็นบางครั้งบางคราว

You come back like a whisper again

เธอกลับมาอีกครั้งเหมือนเสียงกระซิบ

Sometimes when I lie awake at night

บางครั้งเมื่อฉันนอนไม่หลับในยามค่ำคืน

I still picture you in that soft light

ฉันยังคงนึกถึงภาพเธอในแสงนวลนั้น

Not the way we ended things

ไม่ใช่แบบที่เราจบกันไป

But how you once looked at me like spring

แต่เป็นตอนที่เธอมองฉันเหมือนฤดูใบไม้ผลิ

It’s not regret, and it’s not pain

มันไม่ใช่ความเสียใจ และไม่ใช่ความเจ็บปวด

Just a room I walk through in the rain

แค่ห้องหนึ่งที่ฉันเดินผ่านกลางสายฝน

With every tear the sky forgets

กับทุกหยดน้ำตาที่ฟ้าลืมไป

I remember what we never said

ฉันกลับจำในสิ่งที่เราไม่เคยพูด

Maybe…

บางที…

That’s the only place we’re meant to be

นั่นอาจเป็นเพียงที่เดียวที่เราควรอยู่ด้วยกัน

A memory… gently kept…

เป็นความทรงจำ…ที่เก็บไว้อย่างอ่อนโยน…

Where we still meet.

ที่ที่เรายังพบกัน.


✍️ เรียนรู้คำศัพท์จากเพลง Where We Still Meet

เพลงนี้ไม่ได้แค่ทำให้เรารู้สึก
แต่ยังสอนภาษา ผ่านความรู้สึกนั้นด้วย
มาซึมซับคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีความหมายอันงดงาม จากเพลงนี้
คำศัพท์ที่ไม่ใช่แค่อยู่ใน Dictionary …แต่อยู่ที่ หัวใจ


Reverie (n.) – ภวังค์
ตัวอย่างจากเพลง: “In my quiet reverie”
Reverie คือภาวะที่ใจเราล่องลอยอยู่กับความคิด ความฝัน ความทรงจำ


Whisper (v./n.) – กระซิบ
ตัวอย่างจากเพลง: “You come back like a whisper again”
เหมือนเสียงกระซิบที่แผ่วเบา แต่เรากลับได้ยินสนั่นในใจเรา


Echo (v./n.) – เสียงสะท้อน
ตัวอย่างจากเพลง: “Just the echo of your light”
ความรู้สึกที่ยังสะท้อนอยู่ในใจ แม้ต้นเสียงนั้นจะหายไปแล้ว


Silently (adv.) – อย่างเงียบงัน
ตัวอย่างจากเพลง: “When the silence stays too long”
ใช้บรรยายอารมณ์ที่เงียบงันแต่เต็มไปด้วยความหมาย


Memory (n.) – ความทรงจำ
ตัวอย่างจากเพลง: “I still hold the memory”
สิ่งที่ยังหลงเหลือแม้ผู้คนจะจากไป


** เพลงที่ไม่ได้ต้องการคำ  'รัก' **

ในทุกบรรทัดของเพลงนี้ จะไม่มีคำว่า “love” ปรากฏให้เห็นเลยแม้แต่คำเดียว
แต่กลับเต็มไปด้วย ความรัก—ความรักในรูปแบบของความทรงจำ
‘ความทรงจำ’ ที่อ่อนโยน เงียบงัน และไม่ร้องขอให้ใครคนนั้นต้องกลับมา

บางความรัก...ไม่ได้อยู่ในอดีต
ไม่ได้อยู่ในปัจจุบัน
และไม่หวังไปไกลถึงอนาคต
แต่กลับ “อยู่”  ในที่ที่ไม่มีใครได้ฟัง 
อยู่ในภวังค์ของคนๆ เดียว...ในที่ที่เรายังได้พบกัน

หากคุณมีใครบางคน…ที่ไม่อาจกลับมาพบกันได้อีก
แต่สามารถ “พบเขา” ได้ทุกครั้งที่คุณหลับตา
เพลงนี้อาจไม่ได้ รักษาความเจ็บในใจ
แต่เพลงนี้ คือกระจกเงาที่บอกให้รู้ไว้ว่า — “คุณไม่ได้อยู่คนเดียว”

📌 แฮชแท็ก

#เรียนศัพท์ภาษาอังกฤษกับอาจารย์บอม
#WhereWeStillMeet
#เพลงอังกฤษกินใจ
#ภาษาอังกฤษจากบทเพลง #ชนัฐเกิดประดับ 

8.6.68

🎧 More Than Skin

 


ความสัมพันธ์ที่ไม่เคยเรียกว่ารัก…แต่ก็ไม่อาจเรียกว่าจางหาย
“I don’t love you — that’s still true, but I hate the way I lost you.”

บางความสัมพันธ์
แม้ไม่ใช่ความรัก…
แค่คนสองคนที่เผอิญเกิดเหงาในเวลาเดียวกัน

ไม่มีความรัก ไม่มีความผูกพัน
แค่ตอบสนองกันตามแรงปรารถนา
แค่กายที่แนบชิดในยามที่จิตอ่อนแอ

ทุกอย่างก็แค่ “เข้ากันได้”
แต่ไม่ได้มีอะไรผูกพัน

แล้ว วันหนึ่ง…
เมื่อคนหนึ่ง เดินจากไป
โดยไม่เอ่ยคำลา ไม่ทิ้งอะไรไว้ แม้แต่เหตุผล
อีกคน กลับเจ็บ
ไม่ใช่เพราะเขาทิ้งเรา
แต่เพราะเขาทำเหมือน—ไม่เคยมีเราอยู่ที่นั่นเลย

5.3.65

Fate Faith Fake ต่างกันอย่างไร

 


 Fate Faith  Fake ต่างกันอย่างไร?

 

ในช่วงปีใหม่ ใครๆ ก็อยากเริ่มอะไรใหม่ๆ นอกจากเริ่มชีวิตในแบบใหม่ๆ แล้ว หลายๆ คนก็อยากจะรู้โชคชะตา ราศี ของตัวเองด้วยว่า จะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมบ้างหรือไม่  พูดถึงเรื่องโชคชะตาราศีแล้ว ทำให้ผมคิดถึงคำศัพท์ 3 คำนี้ ที่มีความคล้ายคลึงกันในแง่การออกเสียง เลยขอหยิบนำมาเล่าให้ฟังในวันนี้  เริ่มที่คำว่า  

 

Fate  (อ่านว่า  เฟท)   แปลว่า  โชคชะตา เคราะห์กรรม

 

คำนี้เป็นคำนาม แปลว่า โชคชะตา หรือ แนวๆ พรหมลิขิต   บางประโยคคำว่า Fate  ยังหมายถึง เคราะห์กรรม หรือโชคร้ายได้ด้วย  หาก Fate ใช้เป็นคำกริยาจะแปลว่า “กำหนดโชคชะตา”  ก็ได้ ตัวอย่างประโยคเช่น

4.2.65

Fig - Fix ต่างกันอย่างไร?

 


หนึ่งในคำศัพท์ที่ออกเสียงคล้ายๆ กัน ผมถือว่า คำศัพท์คู่นี้เป็นหนึ่งในคำศัพท์ที่น่าสนใจมาก  เพราะทั้งคู่มีคำแปลที่หลากหลายมาก   มาเริ่มกันที่คำแรกเลยดีกว่า นั่นคือ

Fig  (อ่านว่า  ฟิก)  แปลว่า  มะเดื่อ (ฝรั่ง) ,  เครื่องแต่งตัว

คำว่า Fig หากทำหน้าที่เป็นคำนาม และเรื่องที่กำลังพูดถึงนั้น เกี่ยวข้องกับต้นหมากรากไม้  Fig จะหมายถึง ต้นมะเดื่อหรือผลมะเดื่อ รวมถึงต้นไม้ที่มีลักษณะคล้ายๆ ต้นมะเดื่อของฝรั่ง   แต่หากพูดถึงเรื่องเสื้อผ้า Fig จะแปลว่า เครื่องแต่งตัว หรือ หากใช้เป็นคำกริยา จะแปลว่า “แต่งตัว”  อันนี้เราต้องดูบริบทในแต่ละประโยคให้ดีๆ  ก่อนจะฟันธงแปลฉับลงไป 


อย่างไรก็ตาม หากไปเจอคำว่า Fig.  ที่มาพร้อมกับจุด full stop ต่อท้ายแบบนี้ ให้เข้าใจไว้เลยว่า Fig. ตัวนี้เป็นตัวย่อ ที่มาจากคำเต็มว่า Figure (อ่านว่า  ฟิกเก่อร์)  ที่แปลว่า  รูปภาพ   ตัวอย่างเช่น เมื่อเห็นคำว่า fig.1  อยู่ใต้รูปไหน  เขากำลังบอกเราว่า รูปภาพนี้คือรูปภาพที่ 1 นั่นเอง    มาดูคำศัพท์ต่อไปกันดีกว่า

5.1.65

Warm - Worm : หนอนอุ่นๆ

 



ช่วงนี้ปลายปี อากาศที่เชียงใหม่ เช้าๆ นี่หนาวเอาเรื่องเอาราวอยู่เหมือนกัน คนเป็นภูมิแพ้อย่างผมนี่ เรียกว่าหายใจหายคอกันไม่สะดวกเอาเสียเลย   หน้าหนาวทีไรนึกถึงอากาศที่อบอุ่น ทุกที พูดถึงความอบอุ่นทำให้ผมนึกถึงคำศัพท์ขึ้นมาคำหนึ่ง ที่ ออกเสียงคล้ายๆ กัน จนหลายๆ ครั้งก็สับสน ออกเสียงผิดๆ ถูกๆ กันไป เริ่มกันที่คำว่า

4.2.64

Match : ไม้ขีดไฟ กับ การแข่งขัน จะเข้ากันได้ไหม ?

ผมว่างเว้นจากการเข้ามาเขียน Blog นี้ไปนานมาก ใน ปี 2021 นี้ ผมก็ตั้งใจ (อีกล่ะ) ว่าจะเขียนให้ได้อย่างน้อยเดือนละ 1 เรื่อง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้ตามความตั้งใจนี้สักกี่น้ำ  เอาน่า ลองดูกันอีกสักตั้ง  พอดิบพอดี วันนี้ผมไปเจอคำศัพท์มาคำหนึ่ง เห็นว่าน่าสนใจดี เลยอยากหยิบมาเล่าให้ฟัง  นั่นคือ


Match   (อ่านว่า แมช)  แปลว่า การแข่งขัน

 

คำนี้เป็นคำนาม แปลว่า การแข่งขัน เช่น  Football Match ก็คือการแข่งขันฟุตบอล   แต่ช้าก่อน คำว่า Match นี้ยังมีความหมายอื่นๆ ด้วย เมื่อใช้เป็นคำนาม นั่นคือแปลว่า ไม้ขีดไฟได้อีกด้วยนะ  เออ เอาสิ !!  ตัวอย่างประโยค เช่น