31.10.52

Love Me Love My Dog : เรื่องหมาๆ

ผมนึกถึงสำนวน Love me Love my Dog ขึ้นมาได้เพราะพลิกดูรูปเก่าๆ สมัยเรียนที่ ABAC แล้วคิดถึงอาจารย์หญิงท่านหนึ่ง ที่มีบุคคลิกเป็นที่รู้จักไปทั่วมหาวิทยาลัยในสมัยนั้น  ท่านจะมีสุนัขคู่ใจอยู่ตัวหนึ่งซึ่งจะเดินติดตามท่านไปในทุกๆ ที่ ความน่ารักของเจ้าตูบตัวนี้คือ เวลาอาจารย์จะไปสอนหนังสือที่ห้องไหนตึกไหนก็ตามมันก็จะตามไปนอนหมอบอยู่ในห้องและร่วมเรียนอยู่กับนักศึกษาด้วย  หลายครั้ง มันขึ้นลิฟท์ไม่ทันอาจารย์ มันก็จะรอลิฟท์อีกตัวแล้วตามขึ้นไป แต่สิ่งที่น่าทึ่งในความฉลาดเฉลียวของมันก็คือ มันสามารถลงลิฟท์ถูกชั้นและตามเข้าห้องที่อาจารย์กำลังสอนได้อย่างถูกต้องเสียด้วย    อาจารย์มักจะพูดเล่นๆ ในห้องเรียนเสมอๆ ว่าคติประจำตัวของอาจารย์คือ

Love Me Love My Dog  แปลตรงๆ ตัวว่า   รักฉัน ก็ให้รักหมาฉันด้วย

27.10.52

JACKPOT: เมื่อ "แจ๊ค" ... มี "หม้อ"

เขาไม่ใช่ Jack ที่เป็นกิ๊ก กับ Rose ในไททานิค และก็ไม่ใช่ Jack อ้วนดำ แห่ง "แฟนฉัน"  แต่ผมอยากเล่าเรื่องของ Jack ซึ่งไปโผล่อยู่ตามคำศัพท์ต่างๆ ในภาษาอังกฤษ มาดูกันคำแรกเลยดีกว่า

Jacket  (อ่านว่า แจ๊ค เก็ท) เสื้อคลุมแบบสั้น

พูดง่าย ๆ มันก็คือเสื้อแจคเก็ตที่เราชอบเรียกทับศัพท์กันนั่นเอง คำนี้คือ Jack แล้วเติม et เข้าไป เลยกลายเป็น Jacket  คำต่อมาที่อยากเล่าให้ฟัง คือ

Jackpot (อ่านว่า แจ๊ค พ้อท)  แปลว่า  รางวัลใหญ่

24.10.52

Don't Collect your past since you cannot Correct.

ผมตั้่งชื่อเรื่อง ว่า Don't Collect your past since you cannot Correct. ซึ่งแปลว่า อย่าเก็บสะสมอดีตไว้เลย เพราะว่า คุณไม่สามารถ (กลับไป)แก้ไข(มัน) ได้.   ที่ผมอยากนำมาเล่าวันนี้ก็คือคำสองคำที่อยู่ในประโยคนี้ล่ะครับ นั่นคือคำว่า Collect กับ Correct  ซึ่งตัวกระผมเองชอบสะกดผิดสลับกันไปกันมาเป็นประจำ  ก็เลยคิดว่าเอาสองคำนี้ มาเทียบให้แฟนๆ ที่ติดตาม blog ของผม ได้เห็นกันชัดๆ ไปเลย  เริ่มต้นกันที่คำแรก 

Collect   (อ่านว่า คอ เล็กท์)   แปลว่่า เก็บ, สะสม

คำนี้เป็นคำกริยา แปลว่า เก็บ หรือสะสมก็ได้ ถ้าแปลว่าเก็บ บางท่านอาจจะสงสัยว่า แล้วมันใช้ในความหมายเหมือนกับคำว่า Keep ที่แปลว่า เก็บ  ไหม? คำตอบ คือมันเก็บคนละอย่าง Keep นี่คือเก็บไว้ใช้ หรือเก็บรักษาไว้ให้ แต่ คำว่า  Collectเป็นการเก็บไว้ แบบ สะสม เช่น Collecting Stamp  คือการสะสมแสตมป์    มาถึงตรงนี้ ขอฝากประโยคเด็ดๆ สำหรับ Keep เผื่อท่านใดจะนำไปใช้บอกกับสาวๆ   Please keep me in your heart. โปรดเก็บรักษาผมไว้ในหัวใจของคุณด้วย  ฮะแอ้ม จะเก็บไปใช้ต่อก็ได้นะครับ ผมมิได้สงวนลิขสิทธิ์แต่ประการใด    มาดูต่อกันอีกคำนะครับ นั่นคือคำว่า

22.10.52

วัน Halloween ในความหมายที่แท้จริง..

วันนี้ผมจงใจที่จะหยิบยกเรื่องราวเกี่ยวกับเทศกาลฮาโลวีนซึ่งจะมาถึงในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ มาเล่าให้ฟัง พร้อมประวัติความเป็นมาของเทศกาลนี้แบบ มีหลักฐานอ้างอิงและ ไม่ได้โม้ หรือมั่วนิ่ม  โดยเฉพาะ เพื่อให้ กลุ่มพี่ๆ น้องๆ  #Vmpire ใน Twitter ได้อ่านกัน ผมขอเล่าเลยล่ะกันจะได้ไม่เสียเวลา

Halloween  (อ่านว่า ฮา โล่ วิ่น)     คำแปลที่คุ้นปาก คือ วันปล่อยผี

วันนี้เด็กๆ ก็จะแต่งตัวแปลกๆ เป็นผีบ้างเป็นไรบ้าง เดินไปเคาะประตูตามบ้าน ขอขนมขอลูกกวาดไปตามเรืองตามราว หลอกผีกันเล่นบ้าง ทำให้หลายๆ คนโดยเฉพาะพวกที่ทำตัวเหมือนคนเคร่งศาสนา แต่ไม่รู้จริง เที่ยวบอกว่าเป็นเทศกาลที่คริสเตียนไม่ควรส่งเสริม หรือเป็นเทศกาลที่กำเนิดจากผีมารซาตานไปโน่น  อันนี้คือปัญหาของทุกวงการคือเต็มไปด้วยคนที่ชอบวิจารณ์ตำหนิติเตียน แต่ตัวเองขาดความรู้และขึ้เกียจค้นคว้า

19.10.52

Grape in the Grave: องุ่นในหลุมศพ

เห็นเขาขายผลไม้หลากหลายจากต่างประเทศใน ห้างสรรพสินค้า ผมเลยคิดว่าจะหยิบยกเอาคำศัพท์เกี่ยวกับผลไม้ ที่มักจะสะกดกันผิด และทำให้ความหมายต่างกันไปลิบลับ มาเล่าให้ฟัง โดยผมขอเริ่มที่คำแรกก่อนเลย นั่นคือคำว่า

Grape  (อ่านว่า เกร้บ เพ่อะ )    แปลว่า  ผลองุ่น

อันนี้เป็นคำนามเป็นผลไม้ที่เรารู้จักกันดี   แต่ถ้าเป็นไร่ที่เขาใช้ปลูกองุ่น เรากลับเรียกว่า Vineyard  ไม่เรียกว่า Grape Garden นะครับ  เพราะต้นองุ่นภาษาอังกฤษ เรียกว่า Vine  (อ่านว่า วาย เนอะ) คราวนี้อาจจะงงกันว่า Vine นี่เขาใช้เรียกเหล้าองุ่นไม่ใช่เหรอ? คำตอบคือไม่ใช่ครับ  เพราะเหล้าองุ่นฝรั่งเรียกว่า  Vintage (อ่านว่า วินเทจ)  แปลว่า เหล้าองุ่น  ทีนี้คงพอแยกแยะออกนะครับ ระหว่าง ผลองุ่น (Grape) กับ ต้นองุ่น (Vine) และ เหล้าองุ่น (Vintage)  ผมมีอีกคำที่สะกดคล้ายๆ กัน นั่นคือคำว่า

18.10.52

Charisma, Charming : เสน่ห์แบบไหนที่คุณมี

เขาว่ากันว่า คนมีเสน่ห์นี่จะต่างกับคนสวย ด้วยเหตุที่ว่า คนสวยดูนานๆ ไปก็เบื่อแต่คนมีเสน่ห์นี่ ยิ่งอยู่ด้วยยิ่งคุยด้วย ยิ่งมีแรงดึงดูดใจให้ค้นหา   เลยคิดว่าวันนี้เราน่าจะมาคุยกันเรื่อง คำว่า เสน่ห์ ในภาษาอังกฤษสักหน่อยย ว่ามีคำว่าอะไรบ้าง  ลองมาดูคำแรกกันเลยดีกว่า

Charming  (อ่านว่า ช้าม หมิ่ง)  แปลว่า มีเสน่ห์

คำนี้เป็นคำคุณศัพท์ ใช้ขยายคำนาม เช่น charming lady แปลว่าผู้หญิงที่มีเสน่ห์  คำนี้มาจากคำนามคือคำว่า charm ซึ่งแปลว่า เสน่ห์ หรือ แปลว่า เหรียญเล็กๆ ที่ไว้ห้อยคอก็ได้นะครับ  อีกคำที่เกี่ยวข้องกับเสน่ห์นั่นคือคำว่า

16.10.52

Out of....

วันนี้ผมอยากเล่าเรื่องคำ บุพบท (Prepostion) 2 คำ ที่มีความหมายน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเอาไปพ่วงกับคำนาม คำที่ผม จะนำมาเล่าให้ฟังในวันนี้ คือ คำว่า Out  แปลว่า ออก กับ คำว่า Of  ซึ่งแปลว่า (เป็น) ของ  แต่พอสองคำนี้ เอามาเขียนต่อ กัน เป็น out of แล้วตามด้วย คำนาม  ที่แตกต่างกัน ก็จะได้ความหมายใหม่ๆ มาเพียบเลยครับ ผมขอยกตัวอย่างคำแรกก่อน

Out of  hand  (อ่านว่า เอ๊า ออฟ แฮนด์)  แปลว่า ควบคุมไม่ไหว

พูดง่ายๆ ภาษาบ้านๆ ก็แปลว่า คุมกันไม่อยู่ล่ะ  ยกตัวอย่างประโยคเช่น They started discussion nicely, but finally it got out of hand and started fighting.   แปลว่า พวกเขาเริ่มต้นพูดคุยกันดีๆ แต่ในที่สุด ก็ควบคุมไม่อยู่ และเริ่มต่อสู้กัน    ไปต่อกันอีกคำดีกว่า นั่นคือคำว่า

15.10.52

House , Home : บ้านคือวิมานของเรา

หนึ่งในปัจจัยสี่ ที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์นั่นคือ ที่อยู่อาศัย  ในภาษาอังกฤษนั้นมีคำหลายคำทีเดียวที่ใช้เรียกที่อยู่อาศัย   แต่วันนี้ขอหยิบยกเฉพาะคำว่า "บ้าน"   ในภาษาอังกฤษ มาเล่าให้ฟังก่อนนะครับ

House  (อ่านว่า  เฮ้าส์)  แปลว่า    บ้าน

คำนี้เป็นคำนาม หมายถึงการเรียกบ้านที่เป็นหลังๆ บ้านที่สร้างขึ้นด้วยอิฐ ด้วยปูน เราจะใช้คำว่า House ในความหมายด้านกายภาพ ด้านโครงสร้างของบ้าน ในความหมายที่จับต้องได้ เช่น ช่างกำลังสร้างบ้านให้ฉัน   "บ้าน" ในประโยคนี้จะใช้คำว่า House     ส่วนอีกคำที่อยากหยิบมาเล่าให้ฟัง คือคำว่า

Home  (อ่านว่า  โฮม )   แปลว่า    บ้าน

คำนี้เป็นคำนาม ใช้เรียกแทนบ้าน  แต่ จะเป็นด้านในความหมายด้าน อารมณ์ความรู้สึก  ไม่ใช่ในความรู้สึกที่เป็นหลังๆ  มีหลังคามีผนัง  แต่บ้านในความหมายของ Home จะเป็นแนว บ้านนี้มีรัก มีความอบอุ่น มีความสุข มีกำลังใจให้กันและกัน    ในการเปรียบเทียบความหมายเชิงลึกของสองคำนี้ นิยมใช้ประโยคดังต่อไปนี้ ในการเปรียบเทียบให้เห็นภาพ

A house is made of brick and stone.
A home is made of  "love" alone.

แปลความได้ว่า บ้าน ที่ใช้คำว่า House เป็นบ้านที่ สร้างจาก ก้อนอิฐและหิน  ส่วนบ้านที่ใช้คำว่า Home สร้างขึ้นจากความรัก เท่านั้น      

พอจะมองเห็นภาพความแตกต่างของการใช้คำสองคำนี้ไหมครับ ถ้าคนถามว่า Where is your house? บ้านคุณอยู่ไหน เราอาจตอบว่า My house is on Sukumvit Road.   หรือ My home is on Sukumvit Road.  ก็ได้ไม่ผิดกติกา  เพราะมันขึ้นอยู่กับว่า เราต้องการสื่อให้คนถามรู้ว่า เราผูกพัน หรือ มีความรักความอบอุ่นในบ้านเราแค่ไหน

ก่อนจะจบแถมให้อีกคำนะ  ถ้าคำว่า home เติมคำว่า town ลงไป จะได้ศัพท์คำใหม่คือคำว่า Hometown  เป็นคำนามแปลว่า บ้านเกิดเมืองนอน เช่น  My hometown is Chiangmai.  บ้านเกิดเมืองนอนของผมคือเชียงใหม่ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีความหมายด้านอารมณ์และความผูกพันมากจึงใช้ hometown ไม่ใช่ว่า housetown.   แต่ถ้าเป็น Town  House ก็จะแปลว่า บ้านแถวที่ปลูกติดกันโดยใช้ รั้วร่วมกัน จะเห็นว่า พอใช้คำว่า house มาร่วม จะเน้นบ่งบอกถึงลักษณะทางกายภาพที่จับต้องได้มากกว่าด้านอารมณ์ความรู้สึก

วันนี้พอเท่านี้ก่อน ถ้ามีโอกาสผมจะนำเรื่่องที่อยู่อาศัยประเภทอื่นๆ เช่น Mansion, Apartment มาเล่าให้ท่านผู้อ่านได้ฟังนะครับ

อาจารย์บอม

14-10-2009

13.10.52

GoDown: ที่มาของคำว่า "โกดัง"

ผมอ่านข่าวไฟไหม้โกดังเก็บของแห่งหนึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้นึกขึ้นมาได้ว่า คำว่าโกดังที่คนไทยเรียกกัน เพี้ยนเสียงมาจากคำภาษาอังกฤษคำว่า

Godown   (อ่านว่า  โก่ เด๋า)  แปลว่า คลังเก็บสินค้า

คำนี้ มาจาก คำว่า go ซึ่งแปลว่า ไป    กับ down ซึ่งแปลว่า ลง หรือด้านล่าง ถ้าจะแปลซื่อๆ ตรงๆ ตัว ก็แปลว่า ลงไปข้างล่าง   ซึ่งดูแล้วก็ไม่เห็นมีไรเกี่ยวข้องกับ ที่เก็บของ  แต่ข้อน่าสังเกตุคือคำศัพท์คำนี้มีใช้เฉพาะย่านเอเชียและอินเดียเท่านั้น และใช้กับคลังเก็บสินค้าที่อยู่ใกล้ๆ ท่าเรือซะด้วย

11.10.52

Pimp ,Horseshoe Crab : "ไอ้แมงดา"

ผมเผอิญไปเห็นรูปแมงดาทะเลพร้อมคำศัพท์ที่เขียนกำกับไว้ใต้ภาพว่า pimp   เลยสะดุดใจจน อดจะเก็บมาเขียนเล่าให้ฟังไม่ได้

Pimp  (อ่านว่า พิ้ม เพ่อะ)  แปลว่า  แมงดา  

คำนี้เป็นคำนาม แปลว่า แมงดา แต่ไม่ใช่แมงดาที่เป็นสัตว์ทะเล  เพราะคำว่า Pimp เป็นแมงดาที่หมายถึงผู้ชายที่มีอาชีพคุมซ่อง โสเภณี และหากินกับเรือนร่างของสตรีโดยเฉพาะ  ทีนี้อาจจะสงสัยกันต่อว่า แล้วแมงดาที่เป็นสัตว์น้ำอยู่ในทะเลนั้น  ฝรั่งเขาเรียกว่าอย่างไรกัน

IRON อ่านอย่างไรกันแน่?

ผมไปค้นเจอ หนังแผ่น เรือง Iron Man มาดู สนุกดีนะครับ หนังเรื่องนี้ผมดูมาสองรอบล่ะ แต่สิ่งที่สะดุดใจ จนทนเก็บไว้ไม่ไหว ต้องนำออกมาเล่าให้ฟัง นั่นคือ การอ่านออกเสียงคำว่า Iron เนื่องจากคำๆ นี้ ผมมักจะได้ยิน ผู้คนออกเสียงมันผิดๆ อยู่บ่อยๆ ลองมาดูการอ่านออกเสียงคำนี้กันนะครับ

Iron (อ่านว่า ไอ๊ เอิ่น) แปลว่า เหล็ก

จะสังเกตุเห็นว่า ไม่มีการออกเสียงตัว r เลย เรามักจะออกเสียงคำนี้ผิดๆ ว่า ไอ ร่อน ซึ่งฝรั่ง ฟังแล้วงงเป็นไก่ตาแตก   ดังนั้นขอให้จำให้ขึ้นใจเลยว่า แม้ iron จะสะกดโดยมีตัว r แต่เวลาอ่านไม่ต้องไปออกเสียง  r ไม่ต้องไปออกเสียง ร.เรือ ให้อ่านว่า ไอ๊ เอิ่น  คำนี้เป็นคำนามแปลว่า เหล็ก   หรือ แปลว่า เตารีด ก็ได้  แต่ถ้าเป็นคำกริยา จะแปลว่า รีด (ผ้า)

10.10.52

Mouse, Rat : เรื่องของ "หนู", ป๋าไม่เกี่ยว

วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังเรื่องน่ารักๆ ของหนูๆ  ที่เป็นสัตว์นะ ไม่ใช่หนูๆ ของป๊ะป๋า  คำในภาษาอังกฤษ มีอยู่สองคำที่เห็นบ่อยๆ เวลาใช้เรียก สัตว์หน้าแหลม ที่ชื่อว่า หนู  คำแรกคือคำว่า

Rat  (อ่านว่า  แหร่ด)  แปลว่า หนู


คำนี้เป็นคำนามใช้กับหนูที่มันตัวเบ้งๆ หน่อย คือตัวใหญ่ แบบประเภทที่เรียกว่า เดินสวนกับแมว แล้วแมวต้องกระโดดหนี พวกนี้ เรียกว่า Rat   แต่ในทางกลับกัน ถ้าขนาดย่อมลงมา ออกแนวหนูหริ่ง น่ารักๆ ตัวเล็กๆ หน่อย ฝรั่งนิยมเรียกกันว่า

9.10.52

Chest ,Breast : อกเขา..อกเรา


ผมไปรื้อหนังไทยเรื่องหนึ่งออกมาดู ชื่อเรื่องว่า "กอด" เป็นเรื่องของกระทาชายนายหนึ่งชื่อว่า "ไอ้ขวาน" แสดงโดยตุ้ย AF จุดเด่นหรือความแปลกประหลาดของไอ้ขวาน พระเอกในท้องเรื่องนี้ คือ มันดันมีแขนงอกออกมาอีกข้าง กลายเป็นบุรุษผู้มี 3 แขน  แต่ก็ช่างมันเถอะ เพราะที่ผมสนใจคือนางเอกของเรื่องคือ น้องกระแต ที่ตามเรื่องแล้ว น้องเขาจะเซ็งกับหน้าอกหน้าใจของตัวเองที่มันใหญ่บึ้ม เกินไป จนไม่มีใครสนใจส่วนอื่นของเธอเลยนอกจากหน้าอกที่มหึมานั้น  ที่เล่ามายาวยืด ไม่ใช่เพื่อจะบรรยายให้ออก Rate X หรือ Rate R แต่สนใจคำศัพท์คำว่า

Breast  (อ่านว่า เบรสะ ถึ )  แปลว่า   หน้าอก  (หญิง)

7.10.52

Holiday,Vacation,Vocation

ผมอดอิจฉาเพื่อนๆ ที่ไปพักผ่อนกินลมชมวิว ริมชายหาดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ไม่ได้จริงๆ เพราะ   การได้ใช้ชีวิตวันหยุดในสถานที่ที่แตกต่างไปจากเดิม โดยเฉพาะในที่ที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ หาดทรายสายลม แสงแดดนั้น  เหมือนเป็นการเติมพลังให้ชีวิตมีความสดชื่นพร้อมจะลุยกับงานข้างหน้าได้ อย่างเต็มที่  อย่ากระนั้นเลย วันนี้เรามาคุยกันเกี่ยวกับคำศัพท์เรื่องวันหยุด ดีกว่า 

Holiday (อ่านว่า  ฮอ ลิ๊ เด่ )   แปลว่า วันหยุด

คำนี้มีรากศัพท์มาจากคำว่า  Holy Day หรือวันพระ หรือวันอันบริสุทธิ์ ซึ่งคนที่นับถือศาสนาคริสต์เขาจะไม่ทำงานทำการกัน นั่นก็คือวันหยุดนั่นเอง  คำว่า Holiday นั้นมักจะใช้กับวันหยุดที่เป็นทางการหรือวันหยุดราชาการ วันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ไม่ใช้วันหยุดยาว  แต่ถ้าได้วันหยุดราชการติดๆ กันยาวๆ เขาก็จะเติม คำว่า long เข้าไป ให้กลายเป็น Long Holiday อันนี้ส่วนใหญ่จะใช้แทนวันหยุด สั้น ๆ ปลายสัปดาห์ หรือว่า วันหยุด แบบที่เรียกว่า สองสามวัน แต่ถ้าอีกคำ อันนี้จะหยุดยาวกว่า นั่นคือคำว่า

6.10.52

Manufacturing, Factory ,Company

วันนี้ขอเขียนเรื่องนี้  โดยแซงคิวเรื่องอื่นๆ ที่ผมได้เตรียมไว้สักหน่อย เพราะว่า ได้รับคำถามผ่านทาง Twitter จาก @truegether ให้ช่วยอธิบายความแตกต่างของคำสามคำ ผมขอเริ่มที่คำแรกก่อนเลยนะครับ

Manufacturing (อ่านว่า แมน นู แฟ๊ค เชอ หริ่ง )   แปลว่า  ผลิต

มาจากคำกริยาที่ว่า  manufacture  แปลว่า ผลิต หรือประดิษฐ์ ก็ได้ อันนี้จะต่างจากคำว่า make ที่แปลว่าทำตรงที่ว่า มันเป็นการผลิตในระดับแบบโรงงานหรือที่มีการเดินเครื่องเป็นสายการผลิตเลย ลำพังถ้างาน hand made ชิ้นสองชิ้น เราไม่นิยมใช้คำว่า manufacture มันต้องออกมาทีละเป็นร้อยๆ พันๆ ชิ้นโดยผ่านเครื่องจักรออกมาเลยถึงจะใช้คำนี้ได้   พอพูดถึงคำนี้ มันจึงโยงไปยังคำที่สอง นั่นก็คือ

5.10.52

Affection, Adore, Admire, Desire : คุณรักฉันแบบไหน?

ผมเคยเขียนอธิบายคำศัพท์เกี่ยวกับเรื่องความรัก (Love) กับความใคร่ (Lust) ไว้ในบทความเก่า  ของผม  ท่านผู้อ่านสามารถลองกลับไปอ่านดูได้นะครับ  ในครั้งนั้น ผมไม่ได้อธิบายอะไรมากมายนัก เพราะเพียงแค่ตั้งใจจะเทียบระหว่างคำศัพท์ ทั้งสองคำคือ Love กับ Lust เท่านั้น แต่วันนี้มานั่งทบทวนดูอีกที ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่า ยังมีคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความรักอยู่อีกหลายคำทีเดียว ผมเลยอยากจะหยิบยกเอาคำศัพท์เหล่านั้น มาเล่าให้ท่านผู้อ่านฟังว่า นอกเหนือจากคำว่า Love แล้ว ยังมีคำอะไรอีกที่สามารถสื่อถึงความหมายของคำว่ารัก ได้อีกบ้าง โดยผมขอเริ่มที่คำแรกก่อนเลย

Affection   (อ่านว่า อะ เฟ้ค ฉั่น)  แปลว่า ความรัก

1.10.52

Rumour, Gossip , Scandal: เสียงลือเสียงเล่าอ้าง

ช่วงนี้พายุข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวซุบซิบ แยะเหลือเกิน เดี๋ยวก็มีคนนั้นจะลาออก จากตำแหน่ง คนนี้บอกรักคนนั้น คนนั้นขอแต่งงานกับคนนี้ ดาราคนนี้เลิกคบกะคนนั้น ฟังๆดูแล้วรู้สึกว่าข่าวสารสมัยนี้มัน ต้องกรองกันหลายชั้น ทีเดียว เพราะข่าวลวง ข่าวลือ จะแยะกว่าข่าวจริง  อย่ากระนั้นเลย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วมาดูกันดีกว่า ว่า ฝรั่งเขาใช้คำศัพท์อะไรกันบ้าง  สำหรับข่าวที่ไม่จริงเหล่านี้

Rumour (อ่านว่า รู เมอะ)  แปลว่า ข่าวลือ